วันนี้ ผู้บริโภคใช้โมบายที่รวมสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา ที่สำคัญ ผู้บริโภคก็ใช้โมบายช่วยในการตัดสินซื้อสินค้า ณ จุดขายด้วย โมบายจึงมีศักยภาพสูงที่นักการตลาดพยายามหาทางช่วงชิงหน้าจอของโมบายให้สามารถสื่อสารไปยังผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การตลาดที่ใช้ตำแหน่ง หรือ Location Based Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ธุรกิจค้าปลีกนำมาใช้กับการสื่อสารการตลาด เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ มันสามารถเพิ่มโอกาสในการแปลงจากผู้สนใจเป็นลูกค้า (Customer Acquisition) ได้ดีกว่าการตลาดแบบหว่านแห ที่ไม่สนใจว่าผู้รับสื่อจะอยู่ที่ไหนและทำอะไร
ลองจินตนาการว่า คุณอยู่ต่างจังหวัดแล้วมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับร้าค้านที่อยู่กรุงเทพ ณ ขณะนั้น คุณก็จะพลาดโอกาสพิเศษนั้น ที่สำคัญ ข้อความสื่อสารนั้นก็จะสร้างความรำคาญให้กับคุณด้วยเช่นกัน ธุรกิจจะต้องเน้นการเพิ่มโอกาส ลดความไม่พึงพอใจของลูกค้า และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
การตลาดอีเมล์ที่ใช้ตำแหน่ง (Location Based Email Marketing) จึงเป็นเครืองมือทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งกว่าการส่งอีเมล์แบบเดิม เพราะมันสามารถส่งข้อความโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษที่ดึงดูดผู้บริโภคได้ตรงเวลา ณ จุดขาย ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ของสิทธิพิเศษนั่นทันที ที่สำคัญ คุณสามารถได้ลูกค้ามากขึ้นเช่นกัน
ตัวอย่างของร้านกาแฟสตาร์บัคที่จัดโปรแกรมสร้างความจงรักภักดีกับลูกค้า ด้วยการสะสมดาว เพื่อนำไปแลกเครืองดืมฟรี ก็สือสารลูกค้าด้วยอีเมล์ที่ใช้ตำแหน่ง ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้การส่งอีเมล์แบบธรรมดาอยู่ อีเมล์ที่สตาร์บัคส่งออกจึงได้รับความสนใจมากกว่าและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีกว่าทั้งข้อความที่เป็นส่วนตัว (Personalization) กับตำแหน่งที่ลูกค้าอยู่ขณะนั้น
ดังนั้นการที่ธุรกิจสามารถที่จะใช้อีเมล์ที่ใช้ตำแหน่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจจะต้องมีความพร้อมในการแปลงข้อมูลของลูกค้าให้เป็นโอกาสขาย ความพร้อมเหล่านี้คือ
พร้อมในข้อมูลของลูกค้า ธุรกิจจะต้องมีฐานข้อมูลลูกค้าที่พร้อมจะนำมาใช้เพื่อการสื่อสารการตลาด ระบบบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือ CRM จึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก มันช่วยให้คุณบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าที่เป็นศูนย์กลางได้เป็นอย่างดี เครื่องมือที่ดีจะสื่อสารไปยังลูกค้าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการแบ่งกลุ่มและบันทึกข้อมูลการสื่อสารกับลูกค้า
พร้อมด้วยข้อมูล Real-time ธุรกิจจะต้องทำงานแบบ Real-time หรือได้ข้อมูลลูกค้า ณ ขณะนั้น ข้อมูลของลูกค้าอาจจะได้มาจาก
- ข้อมูลจากระบบขาย POS ณ จุดขาย เช่น ข้อมูลการใช้บริการ รายการซื้อสินค้า ยอดเงิน เป็นต้น
- ข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ เช่น การ Check-in ณ สถานที่ต่างๆ การโพสต์ข้อความ เป็นต้น
- ข้อมูลจากการตำแหน่งร้าน ซึ่งอาจจะมาจากการใช้ Wi-fi ของร้าน หรือจากข้อมูล iBeacon ที่ลูกค้าเดินเข้ามาใกล้ร้านค้า เป็นต้น
จริงแล้วยังมีอีกหลากหลายวิธีที่คุณสามารถได้ข้อมูลของลูกค้าและพฤติกรรมแบบ Real-time แต่หัวใจสำคัญคือคุณจะบริหารและจัดการกับข้อมูลลูกค้าจำนวนมากนี้ได้อย่างไร
พร้อมด้วยข้อความสื่อสาร นอกจากรู้จักลูกค้าว่าอยู่ที่ตำแหน่งใดแล้ว คุณจะต้องสื่อสารด้วยข้อความที่โดนใจลูกค้าของคุณด้วย ลูกค้าที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันไม่ได้หมายความว่ามีความต้องการที่เหมือนกัน ข้อมูลโปรไฟล์และพฤติกรรมของลูกค้าจึงมีความสำคัญอย่างมากที่คุณจะนำมาสร้างข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าแต่ละรายที่แตกต่างกันออกไป ธุรกิจจะต้องเตรียมข้อความที่เหมาะสมและเป็นส่วนบุคคลด้วย
พร้อมที่จะประเมินผลลัพธ์ความสำเร็จ การตลาดยุคดิจิตอลจะต้องวัดผลลัพธ์ความสำเร็จเสมอ ที่สำคัญ มันทำได้ง่ายกว่าสื่อการตลาดดั่งเดิมด้วย ทุกครั้งที่เราสื่อสารกับลูกค้าด้วยการตลาดอีเมล์ที่ใช้ตำแหน่ง เราจะต้องวัดผลลัพธ์ความสำเร็จด้วย หน่วยวัดหรือ KPI ได้แก่
- อัตราการเปิดอีเมล์ จำนวนผู้เปิดอ่านอีเมล์
- อัตราการคลิกอีเมล์ จำนวนผู้ที่คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดของสิทธิพิเศษ
- อัตราการการแปลงเป็นลูกค้า จำนวนผู้ได้รับอีเมล์แล้วแปลงเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการหรือซื้อสินค้า
คุณอาจจะพิจารณาถึงผลตอบแทนการลงทุน หรือต้นทุนต่อลูกค้าด้วยก็ได้ การประเมินผลลัพธ์ความสำเร็จนี้จะนำมาปรับปรุงการสื่อสารการตลาดหรือแคมเปญต่อไปในอนาคต
ดังนั้น ถ้าคุณพร้อมในปัจจัยเหล่านี้ คุณก็จะพร้อมที่จะสื่อสารกับลูกค้าด้วยอีเมล์ที่ใช้ตำแหน่ง เชื่อได้ว่าคุณจะได้รับการตอบรับของแคมเปญการตลาดของคุณได้ดียิ่งขึ้น
นาวิก นำเสียง
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด
navik@sundae.co.th