AI (Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทอย่างมากต่อธุรกิจ จนกลายเป็น “The Must” ไปแล้ว และก็มีความสำคัญสูงสุดในการขายในปัจจุบัน เนื่องจาก AI ช่วยให้ผู้ขายสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเช่นกัน
“I hate the term ‘users’ now,” Parler CEO John Matze told Fox News.
“They made a good point in the film, which was that users are like drug addicts… users are people who are addicted to something. The only two people that call their customers users are drug dealers and social media,” Matze said. “So we are going to be redefining the term ‘user’ anywhere we have it on our app to be ‘people’ or ‘citizens.’”
2. Social Media is Drug.
มีเพียง 2 ธุรกิจที่เรียกลูกค้าว่า “ผู้ใช้” หรือ “User” นั่นคือธุรกิจ Social Media และพ่อค้ายาเสพติด (Drug dealer) จึงไม่แปลกเลยที่จะบอกได้ว่า สื่อสังคมออนไลน์ก็คือยาเสพติด ที่ผู้ให้บริการพยายามให้ลูกค้าหรือผู้ใช้ติด (Addict) แล้วไม่หนีไปไหน เหมือนกับพวกติดยาเลย
เราอยู่ในยุคที่เด็กวัยรุ่นออกเดทลดลงและเด็กพบปะผู้คนลดลง เด็กยุค Gen Z ใช้เวลากับมือถือมากๆ เหมือนเสพติดยาอยู่
3. ปุ่ม Like คือฆาตกร
Justin Rosenstein ผู้ร่วมประดิษฐ์ปุ่ม Like ขณะที่ทำงานให้กับ Facebook เล่าว่า เค้าไม่คิดว่าปุ่ม Like จะทำให้สื่อสังคมออนไลน์เป็นที่นิยม และในขณะเดียวกัน มันทำให้คนรู้สึกหดหู่ด้วย โดยเฉพาะกับเด็ก
เด็กจะเปรียบเทียบจำนวน Like ของโพสต์ตัวเองกับเพื่อนหรือกับโพสต์ที่ผ่านมา ส่งให้ผลในทางลบให้เด็กเกิดอาการหดหู่ จนมีหลายเคสถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาสุขภาพจิตกัน
ในแง่ธุรกิจและการตลาด ผมแนะนำให้คุณมีผู้รับผิดชอบแต่ละส่วนแยกกันไปเลยครับ เช่น Head of Engement, Head of Growth และ Head of Advertising เป็นต้น
โดยสรุป ผมก็อยากให้ทุกคนหาโอกาสชม The Social Dilemma ตามชื่อเรื่อง มันคือทางสองแพร่ง ที่สื่อสังคมออนไลน์มีทั้งข้อดีและภัยอันตรา อย่างน้อยเราจะเข้าใจมันและป้องกันไม่ให้เกิดกับครอบครัวของเราได้
ด้วยบ็อทจะทำให้ซื้อขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ในอนาคต เฟซบุ๊คก็ออกแบบการเชื่อมต่อด้วย API ให้มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น การนำ Big Data มาใช้จะทำให้บ็อทเป็นปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) ที่มีประสิทธิภาพและช่วยธุรกิจได้อย่างแน่นอน
เราชื่นชมในความสามารถของ Facebook Video กันไปแล้ว แต่ช้าก่อน เพราะ Live Video ของ Facebook มีความสามารถยิ่งกว่าอีก Live Video มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า สามารถดึงให้ผู้ชมให้ชม Live Video ได้นานกว่า Facebook Video ถึง 3 เท่า ด้วยความเร็วของอินเตอร์เน็ต ผู้บริโภคก็สามารถรับชม Video Streaming ของ Live Video ได้ง่ายขึ้นโดยไม่มีอาการสะดุด
Live video มีความสร้างสรรค์และให้ความเป็นกันเองได้มากกว่าวิดีโอปกติ สามารถสื่อสารกันแบบทันทีทันใดในขณะนั้นได้เลย เรียกว่า โต้ตอบกันได้แบบสดๆ เลยทีเลย เทคนิคใช้ ดารา เซเลบริตี้หรือคนดังเป็นตัวแทนของแบรนด์แล้วมาถ่ายทอดสดด้วย Live Video ก็ได้ความสนใจไม่น้อย สามารถดึงดูดผู้ชมได้เป็นอย่างดี อีกอย่างการเล่าเรื่องเป็นเรื่องราวหรือซีรีย์ก็ได้รับนิยมไม่ใช่น้อย
การใช้ Google Analytics ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นักการตลาดจะต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งเช่นกัน เพราะมันสามารถวิเคราะห์ประสบการณ์ของผู้ใช้จนไปถึงการได้มาของรายได้ จนในที่สุด เราสามารถใช้ Google Analytics ในการเพิ่มรายได้ผ่านสื่อดิจิตอล