ครัวลุงเปี๊ยก อ่างศิลา: ร้านอาหารทะเลสด รสชาติอร่อย การันตีคุณภาพ

{“data”:”eyJpc0ZyYW1lZCI6ZmFsc2UsImNhcHR1cmVDb25maWd1cmF0aW9uIjp7ImxlbnNQb3NpdGlvbiI6eyJiYWNrIjp7fX0sImZyb250Q2FtZXJhTWlycm9yaW5nRW5hYmxlZCI6ZmFsc2V9LCJjb25maWd1cmF0aW9uIjp7Imxvb2tzIjp7InRyYWNrZWRMYW5kbWFya3MiOltdLCJzaW11bGF0ZWRBcGVydHVyZSI6MS40LCJvcGFjaXR5VG9uZSI6MSwibHV0Ijp7Im5hdHVyYWwiOnt9fSwiZ3JhaW4iOnsidXNlckJsZW5kRmFjdG9yIjowLCJzZWVkIjozfSwiZm9jdXNQb2ludCI6eyJkZWZhdWx0Ijp7fX0sImxlbnMiOnsic3VtbWlsdXgyOGYxNCI6e319fX19″,”identifier”:”leica.lux.filters.processed”,”version”:”1.2″}

หากพูดถึงร้านอาหารทะเลในย่านอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี มีตัวเลือกมากมายจนเลือกไม่ถูก แต่หากต้องการร้านที่การันตีความสดของวัตถุดิบ รสชาติอร่อย และบรรยากาศสะอาดสะอ้าน ครัวลุงเปี๊ยก อ่างศิลา เป็นร้านที่ไม่ควรพลาด

ประสบการณ์ 18 ปี ที่สร้างชื่อเสียง

ครัวลุงเปี๊ยก อ่างศิลา เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2550 รวมระยะเวลากว่า 18 ปี จนกลายเป็นร้านยอดนิยมของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมา ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ สดใหม่ทุกวัน พร้อมกับการปรุงอาหารที่คงรสชาติตามแบบฉบับอาหารทะเลแท้ๆ

บรรยากาศร้าน และความสะอาดที่เหนือกว่า

แม้ย่านอ่างศิลาจะเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลมากมาย แต่หากเทียบกันแล้ว ครัวลุงเปี๊ยก ให้ความรู้สึกสะอาด และดูแลร้านได้ดีกว่าหลายร้านในบริเวณเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร โต๊ะ เก้าอี้ หรือบริเวณครัว ทุกจุดดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารที่เสิร์ฟมีคุณภาพ และถูกสุขลักษณะ

เมนูแนะนำ: สด อร่อย รับประกันคุณภาพ

  • ปูม้านึ่ง – ไม่สั่งไม่ได้! ปูม้าของที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความสด หวาน เนื้อแน่น แกะง่าย อร่อยแบบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม
  • กั้งทอดกระเทียม – เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดนะ
  • ยำสามไข่ – รวมไข่แมงดา ไข่ปู และไข่ปลาปลาเรียวเซียว สดอร่อย น้ำปรุงเปรี๊ยวได้ใจจริงๆ รสแซ่บแผดกำลังดี
  • ปลากะพงทอดน้ำปลา – กรอบนอกนุ่มใน ราดน้ำปลาหอมๆ กำลังดี
  • หอยนางรมสด – เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงครบชุด สดจริงทุกคำ
  • ต้มยำทะเล – รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน วัตถุดิบทะเลเต็มหม้อ

เวลาเปิด-ปิด และการติดต่อ

  • เปิดบริการทุกวัน 08.30 – 21.00 น.
  • โทร: 086-831-4573
  • พิกัด: ริมถนนบางแสน-อ่างศิลา จังหวัดชลบุรี https://maps.app.goo.gl/MoRPGb375frML9US9

หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารทะเลที่ สด อร่อย คุ้มราคา และบรรยากาศสะอาดกว่าใครในย่านอ่างศิลา ขอแนะนำให้มาลองที่ ครัวลุงเปี๊ยก รับรองว่าไม่ผิดหวัง!

ข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า ตำนานความอร่อยกว่า 60 ปี ระดับ มิชลิน ไกด์

ข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า

หากพูดถึงข้าวหลามสูตรต้นตำรับที่หอมหวานมันแบบไทยแท้ ร้าน ข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า คือหนึ่งในร้านที่ต้องห้ามพลาด! ร้านนี้สืบทอดสูตรความอร่อยมากว่า 60 ปี โดยใช้วิธีการทำแบบดั้งเดิม นำข้าวเหนียวมาผสมกับน้ำกะทิสดแล้วหุงในกระบอกไม้ไผ่ ทำให้ได้ข้าวหลามที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เนื้อข้าวนุ่มหนึบ และรสชาติกลมกล่อมที่ใครได้ลองต้องติดใจ

ความพิเศษของข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า

ข้าวหลามสูตรโบราณ ใช้กะทิสดและข้าวเหนียวคุณภาพดี หุงในกระบอกไม้ไผ่แบบดั้งเดิม มีหลากหลายไส้ในกระบอก ไส้เผือก ถั่วดำ และแปะก๊วย  

ขนาดที่ให้เลือก แบบดั่งเดิมกระบอกยาว และแบบช็อค ขนาดกระบอกสั้น ส่วนตัวชอบแบบกระบอกสั้น

กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ด้วยกระบวนการหุงแบบดั้งเดิม ทำให้ข้าวหลามมีกลิ่นหอมของไม้ไผ่และกะทิที่ชัดเจน

ความเห็นส่วนตัว

หลายคนที่ได้ลองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รสชาติอร่อยมาก เหนือกว่าข้าวหลามอื่น ๆ” ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบและกลิ่นหอมของกะทิและไม้ไผ่ แต่ก็มีบางความคิดเห็นที่บอกว่า “หวานไปนิด โดยเฉพาะหน้าข้าวหลาม” ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบขนมไทยรสหวานมัน

พิกัดร้าน

📍 แผนที่ร้าน: ข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้า

หากใครเป็นสายของหวานหรือชอบข้าวหลามแบบดั้งเดิม ต้องแวะไปลองข้าวหลามแม่ไข่ทูลเกล้าสักครั้ง รับรองว่าอร่อยติดใจจนต้องกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน!

แนะนำให้โทรสั่งก่อนดีกว่านะ Walkin ไปอาจจะหมดครับ โทร 086 512 8498

บ้านหลี ซีฟู้ด บางปะกง: สวรรค์ของคนรักอาหารทะเล บรรยากาศสุดฟิน ริมทะเล

บ้านหลี ซีฟู้ด

หากพูดถึงอาหารทะเล คงไม่มีใครปฏิเสธความอร่อยที่ยากจะหาใครเหมือน โดยเฉพาะสาวกซีฟู้ดที่หลงใหลในรสชาติของกุ้ง หอย ปู ปลา ที่สดใหม่จากท้องทะเล วันนี้เราขอแนะนำร้านอาหารทะเลสุดฟินที่คุณไม่ควรพลาด กับ ร้านบ้านหลี ซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลที่มาพร้อมกับบรรยากาศริมทะเลสุดโรแมนติก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดงานเลี้ยงปีใหม่ หรือมื้อพิเศษกับคนที่คุณรัก

บรรยากาศสุดโรแมนติก กับวิวพระอาทิตย์ตก

ที่นี่ไม่ได้มีแค่อาหารทะเลสดใหม่เท่านั้น แต่ยังมีวิวที่สวยงามยิ่งในช่วงเย็น ขณะที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดงสะท้อนกับผืนน้ำทะเล ทำให้บรรยากาศเหมาะแก่การเฉลิมฉลอง การได้จิบเครื่องดื่มเย็นๆ เคล้ากับลมทะเล พร้อมชนแก้วฉลองปีใหม่กับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว คงเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด ๆ

การเดินทางสะดวกสบาย

ร้านตั้งอยู่ไม่ไกล เดินทางง่ายมาก เพียงค้นหา “บ้านหลี ซีฟู้ด” บน Google Maps [ https://maps.app.goo.gl/BkUQJttfc37p5W3D6 ] แล้วขับรถตามถนนสุขุมวิทสายเก่า ผ่านโรงไฟฟ้าบางบ่อ ซอยเข้าร้านจะอยู่ก่อนถึงโรงเรียนวัดสีล้ง ขับเข้าไปเพียง 2 กิโลเมตรก็ถึงแล้ว สำหรับที่จอดรถก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถจอดที่โรงเรียนบ้านสีล้งได้ มีพื้นที่กว้างขวางและเดินเข้าไปที่ร้านเพียงเล็กน้อย

เมื่อมาถึงหน้าร้าน คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างจากร้านซีฟู้ดทั่วไป ทางเข้าร้านมีต้นไทรใหญ่และสะพานไม้ไผ่ทอดยาวพาไปสู่ร้าน ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามมาก เพราะจากตรงนี้คุณสามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบพาโนรามา เหมาะสำหรับเก็บภาพความประทับใจ

เมนูอร่อย สดใหม่ ในราคาสบายกระเป๋า

ร้านบ้านหลี ซีฟู้ด โดดเด่นเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ มีเมนูมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเมนูต้ม ผัด แกง ทอด หรือเมนูกับแกล้มก็มีครบ รสชาติจัดจ้านถูกปาก ราคาก็เป็นมิตร อยู่ในช่วง 100 – 400 บาทเท่านั้น ทำให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณ

เมนูแนะนำที่ห้ามพลาด ตามที่ผมกินนะ 🙂

ปูม้านึ่ง
ปลากุเหลาทอดน่ำปลา
หอยเครงลวก สดอร่อยมาก ตัวอาจจะไม่ใหญ่นะ
แกงส้มปลากระบอก ปลาสด น้ำเปรี้ยวกำลังดี

เที่ยวคลองบางหลวง: สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีชีวิตริมน้ำในกรุงเทพฯ

วัดปากน้ำภาษีเจริญ


เชื่อว่าหลายคนที่เกิดในกรุงเทพฯ อาจจะไม่มีโอกาสมาเที่ยวคลองบางหลวง วันนี้ขอเล่าประสบการณ์จากการใช้เวลาครึ่งวันในการสำรวจเสน่ห์ของ คลองบางหลวง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างลึกซึ้ง ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตริมน้ำ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงในการเดินทาง และเก็บเกี่ยวความประทับใจที่หลากหลาย วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้อ่านกัน 😊

การเดินทางไปยังตลาดน้ำคลองบางหลวง

  • (1) สถานีบางไผ่ได้เหมือนกัน แต่ถ้ามาบ้านศิลปิน คลองบางหลวง ให้ไปที่ทางออก 4 เข้าซอยเพชรเกษม 20 หรือซอยวัดกำแพงบางจาก เดินประมาณ 10 นาที หรือประมาณ 850 เมตร ก็ถึงแล้ว 
  • (2) แต่ถ้าใครมาอีกทางก็สามารถลงที่ MRT สถานีท่าพระ เข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แล้วต่อวินมอเตอร์ไซต์หรือสองแถวเข้ามาถึงได้เหมือนกัน

เริ่มต้นที่วัดกำแพงบางจาก (https://maps.app.goo.gl/xEUwSU2oZBaPpREb6)

การเดินทางเริ่มต้นด้วยการมุ่งหน้าไปยัง ซอยเพชรเกษม 20 เดินเพียง 10 นาที (หรือประมาณ 850 เมตร) ก็ถึง วัดกำแพงบางจาก วัดแห่งนี้ให้บรรยากาศสงบ มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

ตลาดน้ำคลองบางหลวง: รสชาติที่ห้ามพลาด

เดินจากวัดกำแพงบางจากอีกไม่นาน ฉันก็ถึง ตลาดน้ำคลองบางหลวง ตลาดที่เต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆ และบรรยากาศริมน้ำที่ชวนให้หลงใหล จุดหมายแรกของฉันคือ ร้านบ้านเพลินจิตต์ (https://maps.app.goo.gl/KiJox86M1CdfMoyL7) ที่ขึ้นชื่อเรื่องผัดไท ฉันสั่ง ผัดไทกุ้งสด พร้อมเพิ่มไก่ รสชาติกลมกล่อมมากๆ สมคำล่ำลือ

หลังจากอิ่มอร่อยกับผัดไท ก็เดินต่อไปยัง ร้านป้าเล็ก (https://maps.app.goo.gl/TDsngfVn64kQUbW66) ร้านดังอีกแห่งในตลาด แม้จะไม่ได้ลองก๋วยจั๊บที่หลายคนแนะนำ แต่ผมก็ไม่พลาดที่จะชิม ข้าวเหนียวมะม่วง หวานหอม ชื่นใจสุดๆ 

วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร: จุดเริ่มต้นล่องเรือชมวัด

จากตลาดน้ำ เราเดินต่อไปที่ วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร (https://maps.app.goo.gl/dyytWp2niprdsFwn6) เพื่อขึ้นเรือหางยาวสำหรับการล่องเรือชมวัด 9 วัด ค่าใช้จ่ายเพียง 200 บาทต่อคนสำหรับคนไทย นับว่าคุ้มค่ามากๆ เรือพาพวกเราล่องผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่งในย่านคลองบางหลวง และเป้าหมายหลักของเราก็คือ พระใหญ่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ

น่าเสียดายที่พระใหญ่อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง แต่ภาพที่ได้มาก็สวยในแบบของมันเอง ถือว่าเป็นความงามอีกมุมหนึ่งที่ประทับใจไม่น้อย

บ้านศิลปิน: ศูนย์รวมกิจกรรมสร้างสรรค์

ก่อนจบทริป เราแวะที่ บ้านศิลปิน (https://maps.app.goo.gl/TjNF7yj5CGWocuaK7)ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีทั้งงานศิลปะ การแสดง และกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ผู้คนคึกคักมาก เี่ใช้เวลาสักพักในการชมงานศิลปะและเก็บภาพบรรยากาศก่อนเดินทางกลับ

ความประทับใจในหนึ่งวัน

การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่ให้ความสุขจากการกินและเที่ยว แต่ยังเป็นการสัมผัสเสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบไทยที่หาดูได้ยากในเมืองหลวง ผมอยากแนะนำทุกคนที่มีเวลาว่างลองมาเที่ยว คลองบางหลวง แล้วคุณจะรู้ว่าความเรียบง่ายของที่นี่ช่วยเติมเต็มจิตใจได้มากแค่ไหนค่ะ 💕

ถ้าคุณมีประสบการณ์คล้ายกันที่คลองบางหลวง หรือมีสถานที่แนะนำอื่นๆ ใกล้เคียง ฝากคอมเมนต์ไว้ได้นะ อยากฟังเรื่องราวของทุกคนเหมือนกันครับ! 

ครัวสองพี่น้อง ปลาแม่น้ำ มะขามสูง พิษณุโลก

ระหว่างเดินทางจากกรุงเทพไปภูสอยดาว ก็ได้แวะมื้อเที่ยงที่ร้านครัวสองพี่น้อง ปลาแม่น้ำ มะขามสูง พิษณุโลก ร้านเล็กๆ แต่เด็ดจริงๆ ขอบอกต่อ…

ครัวสองพี่น้อง ปลาแม่น้ำ มะขามสูง เป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่ตั้งอยู่ในชุมชนมะขามสูง จังหวัดพิษณุโลก เจ้าของบอกว่าร้านนี้มีแต่ปลาสดๆ ที่ซื้อจากชาวบ้านจับปลาแม่น้ำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร เมนูที่นี่มีเอกลักษณ์และรสชาติที่โดดเด่น จนกลายเป็นที่รู้จักและนิยมในกลุ่มคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาชิมรสชาติอาหารไทยพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ครัวสองพี่น้องเกิดจากสองพี่น้อง ลูกสาวของคนที่ผมคุยด้วย ที่เก่งในการทำอาหาร จนเป็นที่ติดใจลูกค้า ลูกค้าที่แวะมากินต่างประทับใจในรสชาติและคุณภาพของอาหาร ผมเป็นหนึ่งในนั้นด้วย

ครัวสองพี่น้องจะใช้วัตถุดิบสดใหม่ จากแม่น้ำเป็นหลัก เช่น ปลาคัง ปลาบึก ปลาตะเพียน และปลาอื่นๆ ซึ่งได้รับมาจากแหล่งจับปลาในท้องถิ่น จึงทำให้อาหารมีความสดและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

รสชาติจัดจ้านเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของร้านนี้เลย เมนูอาหารที่นี่มีรสชาติที่จัดจ้านและเข้มข้น โดยเฉพาะเมนูต้มยำปลาคัง ลาบปลา และปลาทอดกรอบ ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก อีกเมนูก็ปลาแสบ กินแล้วนึกถึงไก่แสบ KFC เลย 🙂

เมนูแนะนำ

ต้มยำปลาคัง: เมนูยอดนิยมที่ใครมาแล้วต้องลอง ต้มยำที่นี่เน้นความเปรี้ยวเผ็ดถึงเครื่องสมุนไพรและใช้ปลาคังที่สด เนื้อแน่น

ปลาทอดกรอบน้ำปลา: ปลาทอดที่มีความกรอบนอกนุ่มใน พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้าน

แกงป่าปลาแม่น้ำ: เมนูที่ผสมผสานระหว่างเครื่องแกงพื้นบ้านและปลาสดจากแม่น้ำ ทำให้มีรสชาติที่จัดจ้านและหอมกลิ่นเครื่องเทศ

ลาบปลาน้ำโขง: เป็นเมนูที่นำปลาน้ำโขงมาปรุงรสแบบลาบไทย รสชาติจัดจ้านแต่กลมกล่อม

สรุป

ครัวสองพี่น้อง ปลาแม่น้ำ มะขามสูง พิษณุโลก ไม่เพียงแต่เป็นร้านอาหารที่นำเสนอรสชาติอาหารที่ยอดเยี่ยม แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ผ่านอาหารที่ทำด้วยความตั้งใจและใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ผู้ที่มาเยือนพิษณุโลกจึงไม่ควรพลาดการแวะชิมอาหารที่นี่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารไทยพื้นบ้านที่หายาก

ทริปพิชิตภูสอยดาว ตามหาทางช้างเผือก

ทางช้างเผือก ภูสอยดาว

ทริปครั้งนี้เรามุ่งหน้าไปยัง ภูสอยดาว อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและสวยงามอันดับต้นๆ ของเมืองไทย กับทีมเพื่อนๆ แก๊งค์ Lenso

วันแรก (27 ก.ย. 2567)

เดินทางกันยาวถึง 7 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ เวลา 7:30 น. มุ่งสู่ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ในคืนแรกเราพักค้างคืนที่นี่เพื่อเตรียมตัวสำหรับการขึ้นดอยในวันรุ่งขึ้น และไม่ลืมแวะชิมอาหารร้านดังที่ ร้านครัวสองพี่น้อง ปลาแม่น้ำ มะขามสูง จังหวัดพิษณุโลก (https://maps.app.goo.gl/LQn58sFMUJ1ZFiPp6) จัดเต็มเมนูปลาจากแม่น้ำมะขามสูง อร่อยทุกจาน แนะนำสุดๆ สำหรับคนชอบปลา!

จากนั้นแวะเดินเล่นที่น้ำตกชาติตระการ น้ำเยอะ สวยงามจริงๆ

ตกดึกก็จัดปาร์ตี้กันเล็กๆ เรียกความเชื่อมั่นใจการเดินป่ารุ่งเช้า

วันที่ 2: เริ่มต้นภารกิจพิชิตภูสอยดาว

เช้าวันที่ 2 ล้อหมุนจากโรงแรมในชาติตระการ มุ่งหน้าไปยัง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เริ่มต้นด้วยการลงทะเบียน ฝากสัมภาระกับลูกหาบ ทริปนี้ได้ “คุณกบ” ที่ช่วยเหลือได้ดีมาก เดินทางมาอุทยานฯ ล่วงหน้า เพื่อจองคิวลูกหาบคิวแรกๆ ขนาดมาก่อนนะ คิวของเรายัง #71 เลย แต่เลขสวยจริง

จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถกระบะไปยัง น้ำตกภูสอยดาว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าขึ้นเขาจริงๆ

การเดินทางเริ่มต้นจากน้ำตกภูสอยดาว กับระยะทางทั้งหมด 6.5 กม. และความสูงถึง 2,100 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางเดินป่าอันดับ 3 ที่สูงที่สุดในไทย

เริ่มจากการเดินผ่านเนินแรก เนินส่งญาติ ที่สมัยก่อนสงครามไทย-ลาว แล้วเป็นจุดรับศพทหาร ฟังแล้วสะหยองเลย เนินส่งญาติซึ่งแม้จะสั้นแต่ชันมาก ได้ยินเสียงน้ำตกไหลเพลินๆ ตลอดทาง

ต่อด้วย เนินปราบเซียน ที่ยาวและเหนื่อยหน่อย แต่ทางก็ร่มรื่นดี

จากนั้นเข้าสู่ เนินป่าก่อ ที่เต็มไปด้วยต้นก่อ (ต้นโอ๊ค) ต้นไม้สูงใหญ่ให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดทาง

มาถึงจุดที่น่าสนใจอีกจุดคือ เนินเสือโคร่ง แต่ถึงแม้ชื่อจะน่ากลัว เราก็ไม่เจอเสือ 555 แค่เดินถ่ายรูปดอกไม้สวยๆ ไปตลอดเส้นทาง

คุณกบ ไกด์นำทางยังเตรียมขนมปัง Pitta จากร้าน Farm De Mom (FB: Farm De Mom) จากเชียงใหม่มาให้กับทุกคนทางระหว่างเดินป่าด้วย น่ารักที่สุดครับ อร่อยจนต้องชมกันเป็นพิเศษ!

แต่เส้นทางก็ยังไม่จบเพราะต้องผ่าน เนินมรณะ ที่ถือเป็นจุดชันที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ และแทบจะเป็นทางเงียบที่เราเกือบหลง

แต่ในที่สุดก็ถึง ลานสนภูสอยดาว ท้ายที่สุดเราได้ถ่ายรูปกับป้าย “ผู้พิชิต” พร้อมกับทุ่งดอกหงอนนาค ที่สวยงามมากๆ ทำให้หายเหนื่อยทันที

ใช้เวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมง 28 นาทีในการเดินขึ้นมา แต่เชื่อว่าถ้าไม่ถ่ายรูปเยอะน่าจะทำได้เร็วกว่านี้!

สิ่งที่แรกที่ทำก็คือกินข้าวไข่เจียวนะ แต่เสียดายไข่บางมาก 555 สู้ไข่เจียวในตำนานที่เขาเขียว เขาใหญ่ไม่ได้เลย

ช่วงบ่ายแก่ๆ เราเดินชม ลานสน และทุ่งดอกหงอนนาค ชมวิวชายแดนไทย-ลาวอย่างเพลิดเพลิน

เดินจากถึงเวลาพระอาทิตย์ตก บรรยากาศสวยงามมากจนหยุดหายใจ

ตอนกลางคืนก็ยิ่งตื่นเต้นไปอีก เพราะเราโชคดีได้เห็น ทางช้างเผือก ฟ้าเปิด ไม่ฝนตก เรียกได้ว่าเป็นโชคดีที่แท้จริง! มาทริปนี้คุ้มจริงๆ

วันที่ 3: เส้นทางเนิน Unseen และเดินทางกลับ

เช้าวันที่ 3 เราตื่นเช้าเพื่อจิบกาแฟและเดินสำรวจแนวทุ่งสน ชายแดนไทย-ลาว และเดินไปยังจุดชมวิว Unseen ที่สูงสุดและสวยงามจริงๆ วิวนี้คุ้มค่ามากสำหรับการเดินทางขึ้นมา ถ่ายรูปกันเป็นร้อยช็อตเลย

จากนั้นเรากลับมากินมื้อเช้าฝีมือคุณแมว อร่อยเต็มที่ก่อนที่จะเก็บเต็นท์และสัมภาระ เพื่อเตรียมตัวเดินลงเขา

สายๆ เดินทางลงตามเส้นทางเดิม คราวนี้ไม่เดินป่าแล้ว มาวิ่งเทรลแทน เสียดายติดฝูงชนที่เดินลงในช่วงแรกๆ และติดอีกทีกับคนที่เดินขึ้นในช่วงปลาย แต่ก็ทำเวลาได้ดีตามใจหวัง ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 52 นาทีในการลงเขา Sub 2 ก็ชื่นใจแล้ว เหนื่อยมากเหมือนกัน

หลังจากนั้นเรารอทานมื้อเที่ยงและรอลูกหาบที่มาช้ามากๆ เกือบ 2 ชั่วโมงได้นะ ระหว่างที่รอก็ไปหาเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นใกล้ๆ เค้าเรียกว่า หมู่บ้านรักไทย พิษณุโลก

ก่อนที่จะตีรถตู้กลับกรุงเทพฯ มื้อเย็นแวะร้านข้าวต้มก่อนกลับด้วย

ทริปนี้อาจเหนื่อยแต่ก็เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ประทับใจมากมาย ทั้งบรรยากาศ ความสวยงามของธรรมชาติ และความท้าทายของเส้นทาง ใครที่ชอบการเดินป่าและอยากสัมผัสธรรมชาติที่แท้จริง ต้องลองมาพิชิต ภูสอยดาว สักครั้งในชีวิต!

สว่าง บะหมี่ก้ามปู สี่พระยา ในตำนาน ยังอร่อยเช่นเคย

หนึ่งในร้านบะหมี่ที่นักชิมทั้งหลายจะต้องรู้จักก็คงหนีไม่พ้น สว่าง บะหมี่ก้ามปู ที่มีอายุกว่า 60 ปี และการันตีด้วย มิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Bib Gourmand) ติดต่อกันหลายปีซ้อน

จุดเด่นของสว่าง บะหมี่อยู่ที่เส้นบะหมี่ไข่เป็ด ที่นุ่มอร่อยมากๆ แถมด้วยหมูแดง หมูกรอบ ที่อร่อยลงตัว ส่วนก้ามปูก็คงอร่อยอยู่นะ … 5555 แพงเกิน ผมเลยไม่ได้สั่งทานในครั้ง เคยทานครั้งแรกสมัยร้านสว่างอยู่แถวเยาวราช ครั้งเดียวพอนะ

สว่าง บะหมี่ไข่เป็ด ในตำนาน
รายการอาหารติดผนัง
บะหมี่แห้ง หมูแดง หมูกรอบ เนื้อปู ครบ 🙂 แยกซุป
อีกเมนูที่แนะนำ… เกี๊ยวหมูทอด
บรรยากาศภายในร้าน

Location ของร้านสว่าง บะหมี่ก้ามปู สี่พระยา

#สว่างบะหมี่ก้ามปู #สีพระยา #บะหมี่

LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว

LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty coffee ดังในโตเกียว

ใครมาถึงโตเกียวและเป็นสายกาแฟ ก็ขอแนะนำร้าน LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty coffee ดังในโตเกียวทีเดียว

LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว

เจ้าของร้าน Yasuo Ishi เป็นอดีตนักมวยอาชีพ แต่มาเปิดร้านกาแฟที่รสชาติออกมาเน้นความสมดุลของ Aroma และ Sweetness ด้วยรสชาติเบาๆ ของกาแฟ ใครดื่มกาแฟ Body หนักๆ คงจะไม่ใช่ร้านนี้นะ 🙂

LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว
LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว
LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว
LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว
LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว

เราใช้เวลา 45 นาทีตั้งแต่มาถึงจนได้กาแฟนะ แถวยาวระดับหนึ่ง แต่คงจะลีลามากในการดริปกาแฟแต่ละแก้วนะ พวกเราสั่ง Costa Rica กับ El Salvador แก้วละ 225 บาทพอนะ แพงจุง แพงกว่ากินข้าวอีก 555

LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว

เอาเป็นว่าถูกใจในยามอารมณ์ต้องการความเบานะ งงมั้ยเนี่ย 555 ถูกใจสายดริป

LEAVES Coffee Roasters หนึ่งในร้าน Specialty Coffee ดังในโตเกียว

เว็บไซต์ LEAVES Coffee Roasters

ร้านคงประเสริฐ  หมูแดง หมูกรอบ สุกี้ อร่อยเกินคาด

อีกร้านที่แถววงเวียนโอเดียน หรือจะว่าไปก็ใกล้กับตรอกสุกร ใกล้กับข้าวหมูแดงหมูกรอบ สีมรกต เจ้าดัง

ร้านนี้เพื่อนที่อยู่แถวเยาวราชแนะนำมา บอกว่าอร่อยไม่แพ้หรืออาจจะดีกว่า สีมรกต ด้วยนะ ฟังอย่างนี้ ก็ต้องลองซิ

แผนที่ ร้านคงประเสริฐ  หมูแดง หมูกรอบ https://maps.app.goo.gl/PhSyRsxpKhg4SpT28

ค้นหาข้อมูลก่อนเลย ว้าว ร้านคงประเสริฐ ถือว่าเป็นร้านเก่าแก่ อายุมากกว่า 80 ปีได้

ปั่นจักรยานมาถึงร้าน ร้านดูเงียบๆ อยู่ในมุมมืด พอเข้ามาในร้านก็เห็นรูปผู้ก่อตั้ง นายคงประเสริฐ (นายเปงกุ่ย) ต้นตำรับ 60 ปี ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้น้องสาวรุ่นที่ 3 อายุ 76 ปี มาดูแลร้าน

เมนูที่ต้องทานก็ ข้าวหมูแดงหมูกรอบกุนเชียง ราคา 50 บาท ไม่แพงและไม่ถูก อาหารใส่ในจานกระดาษ อาจจะดูแปลกๆ ไปบ้างเพราะนั่งทานที่ร้าน หมูแดงอร่อย หมูกรอบใช้ได้เลย ที่เด็ดก็คงเป็นน้ำราดหมูแดงที่ได้อ่านมาก็เป็นสูตรเฉพาะที่ร้านนี้นะ ไม่หวานเกิน (เทียบกับ สีมรกต) ถือว่าผ่านครับ

อีกเมนูที่สั่งก็ สุกี้ไก่หมึกแช่ ราคา 50 บาทเช่นกัน กัดปลาหมึกแช่ชิ้นใหญ่เป็นคำแรกเลย 🙂 นุ่ม ไม่เหนียว รสชาติดีมาก แล้วก็ราดซอสสุกี้ ที่เป็นสูตรพิเศษ ไม่แน่ใจว่าใช้เต้าหู้ยี้รึเปล่านะ แต่ไม่ได้มีกลิ่นแรงขนาดนั้น เนื้อไก่ก็นุ่มอร่อย ลงตัวกับวุ้นเส้นด้วย อีกทั้งผักกาดก็ไม่แข็ง ต้มกับพอดี ถือว่าเป็นเมนูแนะนำเลย อร่อยกว่าสุกี้หลายๆ ร้านนะ

วันนี้ลองแค่นี้ โอกาสหน้าคงได้ลอง แกะตุ๋นยาจีน ที่ได้ยินมาว่าเด็กมาก

ร้านกุ๊กขี้เมา บรรทัดทอง :( ผิดหวังจริงๆ

กุ๊กขี้เมา บรรทัดทอง

ติดตามกุ๊กขี้เมามาโดยตลอด ชอบในลีลา คำพูดที่ตรงจริงใจ แล้วสามารถนำมาปรุงอาหารได้จริงด้วย จำได้แม่นที่สุดก็เมนู กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ ทั้งฮาและก็ได้สาระอยู่นะ

ในเมือเราชื่นชอบก็ต้องบุกไปที่ร้านเนอะ สาขาแรกของกุ๊กขี้เมาอยู่ที่ถนนนวลจันทร์ แต่จริงๆ แล้วกุ๊กเปิดแถว RCA มาก่อน และก็มีหลายร้านหลายที่ๆ ปิดไป

ที่เลือกมาถนนบรรทัดทองเพราะสะดวก ใกล้ที่ทำงาน แต่ร้านเปิดเฉพาะตอนเย็นนะ เลยเที่ยงคืนไปเลย เหมาะกับสายขี้เมาจริงๆ

Location: https://maps.app.goo.gl/CpoYyvRpcDvvL4jw5

บรรยากาศภายในร้านดูดีนะ นั่งกินข้าว ดื่มเหล้าได้เลย จากนั้นก็สั่งเมนูยอดนิยมของร้านนะ ทั้งตามใน Youtube และเมนูแนะนำโดยพนักงาน

ต้มเกี๋ยมบ๊วยเต้าหู้หมูสับบ๊วย…. อร่อยอยู่จานเดียว

เนื้อขั้วตับย่างจิ๋มแจ๋ว … ภายนอกดูเหมือนจะดี แต่เนื้อเหนียวไปนิด ยังไม่ผ่านอะ

หมูกรอบคั่วพริกเกลือ … ก็อย่างงั้น ร้านอื่นดีกว่า

ไก่กรอบซอสไข่เค็ม… ไม่โดน

ปลาหมึกกรอบคั่วพริกเกลือ …ก็ไม่อร่อยอะ

แล้วก็เบียร์ อร่อยที่สุดแล้ว

กุ๊กขี้เมาอย่าเสียใจและด่าผมนะ 🙂