สัปดาห์ที่แล้วได้มีโอกาสไปบรรยายหัวข้อ “ร้านค้าออนไลน์ อนาคตของธุรกิจค้าปลีก” และได้พูดคุยกับผู้ประกอบการธรุกิจอีคอมเมิรซ์หลายท่าน ทั้งผู้ประกอบการตลาดกลางร้านค้าออนไลน์ ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ที่มาจากซุปเปอร์สโตร์รายใหญ่ ผู้ประกอบการขายหนังสือดิจิตอล และสุดท้ายก็ ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ระดับขนาดเล็ก เรียกได้ว่าครบทุกภาคส่วนของธุรกิจร้านค้าออนไลน์เลยทีเดียว พวกเขาได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จและผิดหวังได้อย่างน่าสนใจ
ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์จะต้องมีความหลงใหลในสินค้าและบริการของตนเอง ธุรกิจนี้อาจจะเข้าง่าย เพราะไม่มีต้นทุนค่าเช่าร้านที่สูง ไม่ต้นทุนสต็อกสินค้าที่สูง เป็นต้น แต่ธุรกิจนี้ก็มีผู้ประกอบการที่ประสบความล้มเหลวกันก็เยอะ ความสำเร็จของธุรกิจนี้จะมาควบคู่กับความอดทน ถ้าผู้ประกอบการไม่มีความหลงใหลในธุรกิจแล้ว ก็จะไม่มีความอดทนในการดำเนินธุรกิจและก็จะล้มเหลวในที่สุด
ล้มแล้วต้องรีบลุกสู้ใหม่ ธุรกิจนี้เริ่มต้นง่าย บางคนเพียงแค่เปิดหน้าเฟสบุคขายของก็ร่ำรวยแล้ว ดังนั้น ถ้าผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจแล้วไม่ประสบความสำเร็จด้วยความพยายามที่สุดแล้ว ให้คุณตัดใจแล้วเริ่มต้นธุรกิจใหม่ อย่าเสียเวลากับธุรกิจที่ไม่ทำให้ประสบความสำเร็จนั้น
ปลาเร็วกินปลาช้า โลกออนไลน์ มีการเปลี่ยนแปลงไว เราต้องปรับตัวให้ไวที่สุด การนำเสนอสินค้า โปรโมชั่น และอื่นๆ จะต้องไว เพราะวงจรชีวิตของพวกนี้จะสั้น ผู้ประกอบการจะต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าฉีกตำราและค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ
เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์อย่างเดียวไม่พอ คุณจะต้องใช้สื่อการตลาดออนไลน์ที่หลากหลายและตรงกับกลุ่มลูกค้าของคุณ ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุค และ ไลน์ ที่มีคนไทยใช้บริการมากที่สุด คุณต้องสร้างหน้าเฟสบุคให้จูงใจและนำไปสู่การปิดการขายให้ได้ คุณอาจจะใช้ Line@ ที่เป็นบริการบัญชี Line อย่างเป็นทางการ ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่มีข้อจำกัดบ้างในจำนวนการส่งข้อความ
ระบบร้านค้าออนไลน์ต้องเร็วและง่าย ลูกค้าคนไทยยังไม่คุ้นเคยกับระบบร้านค้าออนไลน์มากนัก ระบบร้านค้าออนไลน์ของคุณจะต้องให้ประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจกับลูกค้า ทั้งก่อนซื้อ ระหว่างซื้อและหลังการขาย หากคุณทำได้ดีพอ ลูกค้าของคุณก็จะกลับมาซื้อซ้ำกับคุณ
รีวิวเป็นสิ่งที่ลูกค้าชอบ ลูกค้าจะไม่เชื่อในโฆษณา ไม่เชื่อข้อความที่เจ้าของเว็บไซต์บอก แต่พวกเขาจะเชื่อลูกค้าอื่นๆ ที่มารีวิวหรือให้คะแนนในสินค้าและบริการนั้นๆ การให้ลูกค้าถ่ายรูปตัวเองกับสินค้าและส่งกลับมาเพื่อให้ร้านค้าโพสในเฟสบุคก็เป็นตัวอย่างที่ดี ลูกค้าจะชื่นชอบและลูกค้าอื่นๆ ก็จะเห็นว่าร้านค้านี้ได้รับ Feedback ที่ดีจากการใช้
Personal Branding หรือการใช้ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ หลายแบรนด์ใช้เจ้าของกิจการหรือผู้ก่อตั้งเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ตัวเอง ลูกค้าจะได้รับความสนิทสนมมากขึ้นกับแบรนด์ และสามารถเข้าถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้อย่างแท้จริง คุณอาจจะสร้างหน้าเฟสบุคใหม่ของคุณเองและสื่อสารในแบบของคุณอย่างเป็นกันเองกับลูกค้าหรือผู้ชื่นชอบของคุณ
ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกเรื่อง การมีคู่ค้าที่ดีจะช่วยทำให้ธุรกิจเคลื่อนที่ได้รวดเร็วและอุดรอยรั่วในสิ่งที่เราไม่ถนัดได้ คู่ค้าที่ผู้ประกอบการควรจะพิจารณาเช่น ระบบชำระเงินออนไลน์ ระบบลอจิสติกหรือส่งสินค้า ระบบคลังสินค้า ระบบหน้าร้านค้าออนไลน์ เป็นต้น ผู้ประกอบการควรจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาสินค้าและระบบหลักของธุรกิจ
อย่าคิดว่าธุรกิจออนไลน์คือการทดแทนธุรกิจออฟไลน์หรือธุรกิจดั่งเดิม อยากให้มองว่าธุรกิจออนไลน์เป็นส่วนขยาย คุณจะต้องคิดกลยุทธ์ให้ทั้งสองนี้สอดคล้องกันมากกว่าที่จะเลือกทางใดทางหนึ่ง คุณอาจจะให้กลยุทธ์ออนไลน์กับกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่มีพฤติกรรมสอดคล้องกับการใช้ออนไลน์ เป็นต้น
นาวิก นำเสียง
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด
navik@sundae.co.th