ซ้อม 100 KM Ultra Marathon เพื่อไปวิ่งงาน Khaoyai 100 ยังไง?

Ultra marathon ซ้อมวิ่ง

คนไม่เคยวิ่งระยะไกล 100 กม มาก่อน ก็ต้องมีความกลัว กังวลเป็นธรรมดามั้ยอะ?

แต่คนที่เคยวิ่ง 100 KM มาก่อน ถามคำถามหนึ่งว่า

วิ่งจบมาราธอนแล้วรู้สึกเจ็บหรือเหนื่อยล้ามั้ย? ถ้าไม่ คุณก็สามารถไป Ultra ได้

ผมก็ลุยเลยซิ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นตารางการซ้อมมาก่อนเลย

แน่นอน ผมก็ถามคนรอบข้างที่เคยวิ่ง 100 กม มาก่อน เค้าก็แนะนำตารางซ้อมที่หาจากงาน Khaoyai Ultra Marathon ตามนี้ ซึ่งดูแล้วน่าเป็นไปได้

ผมก็เอามาลงวันที่ทันที

แต่ไม่แค่นั่นซิ อีกคำหนึ่งที่เพิ่งรู้จัก Back to Back หรือ B2B ที่เป็นวิธีการซ้อมของนักวิ่ง Ultra Marathon เขาว่าถ้าจะซ้อมไปมาราธอน 42 กม คุณต้องซ้อมวิ่ง 80% ของระยะ หรือ 33 กม ดังนั้น ด้วยหลักการเดียวกัน เราต้องซ้อมวิ่ง 80 กม เพื่อลงงาน 100 กม 55555 ใครจะบ้าหรือมีเวลาขนาดนั้น เราไม่ใช่นักวิ่งอาชีพนะ

เค้าจึงใช้วิธี Back to Back คือ ให้วิ่งติดกันสองวัน เช่น เช้านี้วิ่ง 40-50 กม พรุ่งนี้ก็วิ่งซ้ำอีกที 40-50 กม อย่างนี้ก็เพียงพอ อย่างน้อย 2 ครั้ง ก็น่าจะพอจบ 100 กม ได้

แต่เอาจริงๆ นะ สำหรับผมๆ ยังทำไม่ได้เลย 555 ได้แค่ 42 กม อีกวันได้แค่ 20 กม ดังนั้น ผลประกอบการก็ได้ตามนั้นนะ 14:50 ชม 🙂

นี่คือการซ้อมจริง

ซ้อมได้ตามตารางจริงแค่ 40% เอง อีก 21.5% ได้บางส่วน และ 38% ไม่ได้ทำ เพราะติดงาน แล้ววิ่งไกลสุดแค่ 42 กม เอง 5555

ก็ขอให้กำลังใจกับผู้ที่จะวิ่ง 100 กม ครั้งแรกนะครับ พยายามซ้อมตามตารางนี้ให้ได้ ผมว่า คุณจบได้แน่ๆ ครับ

นอกจากนี้ก็ลองดูคลิปของนักวิ่งอื่นๆ นะ จะได้มาประกอบการซ้อมได้นะ

ตารางซ้อมของ โทรมาฮอค วิ่งงาน Khaoyai 100 Ultra Marathon (5555 เลียนแบบไม่ได้นะ)

การซ้อมของโค้ชเงี๊ยบ ก็โหดมาก ถ้าทำก็ดีแน่นอน

งานวิ่ง Khaoyai 100 Ultra Marathon 2023 ครั้งแรกของคนเหล็ก ทางสวยเนินเต็มๆ ทรมานบันเทิง

งาน Khaoyai Ultra Marathon 100 กับประสบการณ์วิ่งยาวๆๆ 100 กม ครั้งแรก

หลังจากจบ Ironman Kalmar เดือนสิงหาที่ผ่านมา ก็มีเพื่อนๆ ป้ายยาวิ่งงานนี้ รวมถึงน้องโรจน์ นักวิ่ง Boston Marathon ที่งานนี้วิ่งเป็นบัดดี้ด้วยกัน

คนที่เคยวิ่งงานนี้มาก่อนบอกว่า “ถ้าพี่วิ่งมาราธอนจบแล้วไม่เจ็บ ยังวิ่งวันรุ่งขึ้นได้ พี่ก็ไป 100 กม ได้” …. ง่ายขนาดนั้นรึ เอาซิ กดสมัครเลย ผมน่าจะเป็นคนสมัครเกือบสุดท้ายได้ มีเวลา 3-4 เดือนในการซ้อม พยายามซ้อมวิ่งยาวแต่ไม่ได้ซะที จนต้องหาบิบวิ่ง 2 งานมาราธอนก่อนงานแข่ง ไม่งั้นมีสิทธิ์เดี้ยงแน่ๆ

วันรับ BIB (ศุกร์ 15 ธันวาคม 2566)

มารับที่จุดปล่อยตัวโบนันซ่า ก็เจอพี่ๆ เพื่อนๆ หลายคน ฟัง Race Brief รู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง แล้วทานข้าวเย็นที่งานเลย ก่อนจะเข้าบ้านพักแล้วนอนเร็ว 2 ทุ่ม

แผนที่วางไว้ วิ่งกับบัดดี้โรจน์ คือวิ่งไม่เกินโซน 2 กินเจลทุก กมที่ X0 และ เกลือทุก กม ที่ X 5 เป้าหมายเลวร้ายสุดก็ Sub 15 ชม ดีสุดน่าจะ Sub 13

วันแข่ง (เสาร์ 16 ธันวาคม 2566)

STAGE 1: ออกตัวตั้งแต่ตี 3 วิ่งไป 1 กม นาฬิกาแฮงค์ ต้องมากดปิดและเปิดใหม่ โชคดีมันจับเวลาต่อ แต่เสียระยะไป 200 ม ได้ วิ่งไปทางไร่มณีศร ไปยังถนนทองอุไร เส้นทางเป็นเนินขึ้นเป็นส่วนใหญ่ รู้สึกได้เลยว่าขาล้ากว่าปกติ วิ่งไปสักพัก ยืนยันเลยว่า เป้าหมายเอาแค่ Sub 15 ชม ก็พอ 555

จบ Stage 1 ระยะ 22.5 กม นั่งกินข้าวต้มที่ Center Station รู้สึกสบายๆ คิดว่ารองเท้า Nike Vaporfly Next 3 น่าจะเอาอยู่ ไม่ต้องเปลี่ยนรองเท้าแตะ

STAGE 2: เข้า Stage 2 ระยะ 29.5 กม ทางเหมือนเดิม ขึ้นและลง ขาขึ้นก็สลับเดิน ขาลงก็ลงเร็วไม่ได้ มันกระแทก แต่อากาศร้อนเริ่มมาแล้ว แสงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าสวยงามมาก แต่แสงแดดแรงจริงๆ ทางนี้ผ่านวัดภูหายหลงที่เคยปั่นจักรยานแบบชิลมาก่อน และผ่านโป่งตาลอง

จบ Stage 2 ก็ยังรู้สึกไม่เหนื่อยมาก ทุกอย่างเป็นไปตามแผน โรจน์เอาใบกระท่อมมาให้กิน จะได้ทนแดด 555 คิดถึงกรรมกรเลย

STAGE 3: เข้า Stage 3 ระยะ 25 กม ที่ทุกคนบอกว่าเป็น Stage วัดใจ วิ่งผ่านภูคำหอม แล้วเข้าเส้นทางเนินธรรมจักร ทางชันยาวมากๆ ก่อนจะไป U-turn เข้าตลาดน้ำเขาใหญ่ เริ่มเห็นคนเดินกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ขาเริ่มล้ามากๆ แต่ยังกัดฟันวิ่งช้าๆ สลับเดินได้อยู่

จบ Stage 3 กินข้าวไข่พะโล้ อร่อยจริงๆ 5555 คงเหนื่อยและหิวนะ ดีที่ไม่ต้องเปลี่ยนรองเท้าและเสื้อ ออกจาก Center Station เวลา 14:15

STAGE 4: เข้า Stage 4 ตามแผนถ้าวิ่งๆ เดินๆ ก็น่าจะทัน Sub 15 ชม แน่ Stage สุดท้าย ระยะ 23 กม ก็รู้สึกมีกำลังใจและแรงฮึดเข้ามา วิ่งซิ และมีเดินบ้าง คุมให้ไม่เกินเพช 9 ในแต่ละ กม เราต้องเข้าเส้นชัยก่อน พระอาทิตย์ตกดินให้ได้ แดดยังร้อนอยู่ พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ชวนเพื่อนร่วมวิ่งคุยไปตลอดทาง

ถนนบางจุดเป็นทางกราเวลด้วย กินทรายเยอะพอควร จบสุดท้ายก็เข้าเส้น 17:50 น.

ผลประกอบการ 100.8 กม กับ 14:50 ชั่วโมง เพชเฉลี่ย 8:49 ไต่รวม 1280 ม นี่วิ่งนะ ไม่ใช่ปั่น 555 ดีใจสุดๆๆ เราทำได้ เราทำได้ตามแผนที่วางไว้ มันเป็นงาน 100 กม แรก (และเป็นครั้งสุดท้ายด้วย) 5555 โชคดี เท้าไม่เจ็บใดๆ ร่างกายไม่มีแผลเสียดสีด้วย ไม่มีทะเลาะกับบันได ตื่นเช้ามายังเดินจ็อกเบาๆ ได้ ดีใจสุดๆ 🙂

คิดว่าการเตรียมตัวซ้อมด้วยการวิ่ง 2 มาราธอนกับโรจน์ ด้วยโซน 2 ช่วยให้เราปรับเทคนิคในการวิ่งและสร้างกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง

ขอบคุณโรจน์ ที่วิ่งเป็นบัดดี้ด้วย คุยกันไปทุกเรื่อง ตลอด 15 ชั่วโมง ถ้าไม่มีโรจน์ อาจจะไม่ได้เวลาขนาดนี้ก็ได้

ขอบคุณน้องใหญ่และจานต่ายที่ช่วยเป็น Supporter ช่วยได้มากจริงๆ

ขอบคุณเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่วิ่งงานนี้ ช่วยทำให้รู้สึกอบอุ่นดีครับ ไม่เหงา ขอบคุณเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่ให้คำแนะนำทุกคนนะครับ

วิดีโอคลิป ฉบับเต็ม 26 นาที จากความทรมานบันเทิง 100 กม 14:50 ชั่วโมง 🙂

สรุปอุปกรณ์ที่ใช้วิ่งกันหน่อย ทั้งหมดนี้ ผมไม่ได้ค่าสปอนเซอร์นะครับ 🙂

เสื้อวิ่ง Intania 71 แขนสั้น

เสื้อแจ็กเก็ต Salomon พร้อมถุงน้ำ 300 มล 2 ถุง

กางเกงของ Training Lab TL Impala

หมวกใบเดียว จบทั้งงาน

ถุงรัดน่อง Compressport

ถุงเท้า Drymax คู่เดียวจบ

รองเท้า Nike Vaporfly Next 3 คู่เดียวจบเช่นกัน

Roll stick กันเสียดสี 2TOMs Butt Shield สีส้ม

เจลเติมพลังงาน Active Peak ประมาณ 11 ซอง กินทุก 10 กม

เกลือ ทั้งแคปซูช Salt Pro กับ Salt Pro Chew กินสลับกัน ทุก 10 กม

#khaoyai100ultramarathon #running #IAmUltraman #IAmIronman #IAmHalfOceanman